วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2559

อานันทสังฆสามัคคีสูตร

      ท่านพระอานนท์ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ 
พระองค์ตรัสว่า สังฆสามัคคี สังฆสามัคคี ดังนี้ 
สงฆ์จะเป็นผู้พร้อมเพรียงกันด้วยเหตุมีประมาณเท่าไรหนอแล ฯ

     พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ 
ย่อมแสดงสิ่งที่ไม่ใช่ธรรมว่าไม่ใช่ธรรม 
ย่อมแสดงสิ่งที่เป็นธรรมว่าเป็นธรรม
................
ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้ว่า ตถาคตไม่ได้บัญญัติไว้ 
ย่อมแสดงสิ่งที่ตถาคตได้บัญญัติไว้ว่า ตถาคตได้บัญญัติไว้ 
ภิกษุเหล่านั้น  ย่อมไม่ทอดทิ้งกัน 
                            ไม่แยกจากกัน 
                            ไม่ทำสังฆกรรมแยกกัน 
                            ไม่สวดปาติโมกข์แยกกัน ด้วยวัตถุ ๑๐ ประการนี้ 
ดูกรอานนท์ สงฆ์ย่อมเป็นผู้พร้อมเพรียงกันด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้แล ฯ

     อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็บุคคลผู้สมานสงฆ์ผู้แตกกันแล้วให้พร้อมเพรียงกัน 
จะประสพผลอะไร พระเจ้าข้า ฯ
     พ. ดูกรอานนท์ บุคคลผู้ที่ทำสงฆ์ผู้แตกกันแล้วให้พร้อมเพรียงกันนั้นจะประสพบุญอันประเสริฐ ฯ
     อา. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บุญอันประเสริฐคืออะไร พระเจ้าข้า ฯ
     พ. ดูกรอานนท์ บุคคลผู้สมานสงฆ์ผู้แตกกันแล้วให้พร้อมเพรียงกันนั้น
จะบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอดกัปหนึ่ง ฯ

              ความพร้อมเพรียงแห่งสงฆ์ เป็นเหตุให้เกิดความสุข   และ
              บุคคลผู้อนุเคราะห์สงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกันแล้ว   ผู้ยินดีแล้วใน
              ความพร้อมเพรียงกัน ตั้งอยู่ในธรรม ย่อมไม่พลาดจากธรรม
              เป็นแดนเกษมจากโยคะ     ย่อมบันเทิงอยู่ในสวรรค์ตลอด
              กัปหนึ่ง เพราะสมานสงฆ์ให้พร้อมเพรียงกัน ฯ

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๔  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๖
อังคุตตรนิกาย ทสก-เอกาทสกนิบาต

1 ความคิดเห็น: